บำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ

พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่จนได้รับอันตราย หรือเจ็บป่วยถึงแก่ความตาย หรือได้รับอันตราย หรือเจ็บป่วยจนไม่สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ จะได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ หรือได้รับบำเหน็จความชอบตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้

  1. พนักงานซึ่งถูกประทุษร้ายและได้รับอันตรายถึงแก่ความตาย ทุพพลภาพหรือพิการ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ เลื่อนเงินเดือนได้ไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินเดือนเดือนสุดท้ายหรือให้ได้รับบำเหน็จความชอบเป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินเดือนเดือนสุดท้ายไม่เกิน 15 เดือน
  2. พนักงานซึ่งประสบเหตุถึงแก่ความตาย ทุพพลภาพหรือพิการ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ เลื่อนเงินเดือนได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย หรือให้ได้รับบำเหน็จความชอบเป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินเดือนเดือนสุดท้ายไม่เกิน 12 เดือน
  3. พนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะตรากตรำ เร่งรัดหรือเคร่งเครียดเกินกว่าปกติธรรมดาเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทุพพลภาพหรือพิการ เลื่อนขั้นเงินเดือนได้ไม่เกินร้อยละ 12 ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย หรือให้ได้รับบำเหน็จความชอบเป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินเดือนเดือนสุดท้ายไม่เกิน 10 เดือน
  4. พนักงานและพนักงานสมทบซึ่งประสบเหตุถึงแก่ความตาย เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ให้ได้รับบำเหน็จความชอบเป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนเดือนสุดท้ายจำนวน 24 เดือน

การพิจารณาว่าควรให้พนักงานได้รับการเลื่อนเงินเดือนหรือให้ได้รับบำเหน็จความชอบ ให้พิจารณาถึงประโยชน์สูงสุดที่พนักงานจะได้รับ

หมายเหตุ การได้รับอันตรายหรือถึงแก่ความตายเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ยังก่อให้เกิดสิทธิในการได้รับค่าทดแทนเป็นรายเดือน ดังนั้นการเลื่อนเงินเดือนให้จะเป็นประโยชน์ทำให้ค่าทดแทนรายเดือนสูงขึ้นสำหรับพนักงานที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท ส่วนผู้ที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาท ขึ้นไป การเลื่อนเงินเดือนให้ไม่ก่ดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่าทดแทนรายเดือน ซึ่งค่าทดแทนรายเดือนสูงสุดจะจำกัดไม่เกิน 9,000 บาท จึงให้ได้รับบำเหน็จความชอบเป็นจำนวนหนึ่งแทน

หลักเกณฑ์การให้บำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ สำหรับพนักงานนำไปใช้กับลูกจ้างชั่วคราวและผู้มีความรู้ความสามารถพิเศษ โดยอนุโลม